เทคนิคเทรดที่เราใช้ทำกำไร
การเทรดเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ถึงแม้มันจะดูเสี่ยง ซับซ้อนและยาก แต่ก็ยังมีวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราสร้างกำไร และอาจสร้างรายได้เสริมในระยะยาวได้ ในบทความนี้ก็จะมาบอก เทคนิคเทรดง่ายๆ ในการทำกำไรจากการเทรดรูปแบบต่างๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันกันครับ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือมืออาชีพก็สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน
1.รู้จักพื้นฐานของตลาด แลกเปลี่ยนสกุลเงิน
ก่อนที่เทรดเดอร์จะวิเคราะห์กราฟ เพื่อทำกำไรจาก เทคนิคเทรด Forex จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้พื้นฐานและโครงสร้างของตลาดนี้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มลักษณะต่างๆทั้งแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง หรือช่วงที่ตลาดไม่เป็นแนวโน้มเลย เพื่อที่จะเข้าใจการเคลื่อนไหวในทิศทางคร่าวๆของตลาด เมื่อเราเข้าใจแนวโน้มของตลาดในช่วงนั้นแล้ว เทรดเดอร์ก็จะหาจังหวะเข้าทำกำไรตามแนวโน้มนั้นๆ ซึ่งข้อควรระวังจากประสบการณ์ของเทรดเดอร์หลายๆคนคือจะไม่นิยมเทรดในช่วงที่ตลาดยังไม่มีแนวโน้มชัดเจน หรือจะไม่เทรดสวนทางกับแนวโน้มของตลาด เราจึงเลือกที่จะวิเคราะห์วางแผนการเทรดตามแนวโน้มในช่วงนั้นๆ
2.เข้าใจแนวรับ (Support) แนวต้าน (Resistance)
ถือเป็นแนวคิดพื้นฐานในตลาด แลกเปลี่ยนสกุลเงิน ที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ทำความเข้าใจและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้ดีขึ้น ซึ่งทั้งสองแนวนี้เป็นแนวที่มีนัยยะความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเทรดเดอร์ด้วย เพราะมันเป็นจุดที่ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนทิศทาง หรือมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
– การเกิดแนวรับ (Support) ส่วนใหญ่จะเกิดจากจุดที่คนในตลาดเห็นตรงกันว่าราคานั้นอยู่ในระดับที่ถูกเกินไปเป็นโอกาสที่ควรจะซื้อ ซึ่งทำให้แรงซื้อเพิ่มขึ้นและช่วยพยุงราคาไม่ให้ตกลงไปอีก หรือเมื่อราคาลดลงมาถึงระดับหนึ่งแล้วกลับทิศทางขึ้นไปหลายครั้ง
ตัวอย่าง
หากราคาของคู่สกุลเงิน XAU/USD ลงมาถึง 2400.00 หลายครั้งก่อนหน้าและจะมีการเด้งกลับทุกครั้ง หลังแตะราคา 2400.00 เทรดเดอร์ก็จะมองว่าในราคา 2400.00 เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ถ้าราคาลงมาถึงจุดนี้อีกครั้ง เทรดเดอร์ก็จะพิจารณาเข้าออเดอร์ Buy เพราะคาดว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไปอีกครั้งแน่นอน
– การเกิดแนวต้าน (Resistance) ส่วนใหญ่จะเกิดจากจุดที่คนในตลาดเห็นตรงกันว่าราคานั้นอยู่ในระดับที่แพงเกินไปเป็นโอกาสที่ควรจะขาย ซึ่งทำให้แรงขายเพิ่มขึ้นและช่วยไม่ให้ราคาขึ้นสูงไปอีก หรือเมื่อราคาสูงขึ้นไปถึงระดับหนึ่งแล้วกลับทิศทางลงไปหลายครั้ง
ตัวอย่าง
หากราคาของคู่สกุลเงิน XAU/USD ขึ้นไปถึง 2500.00 หลายครั้งก่อนหน้าและจะมีการกลับลงไปทุกครั้ง หลังแตะราคา 2500.00 เทรดเดอร์ก็จะมองว่า ในราคา 2500.00 เป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง ถ้าราคาลงมาถึงจุดนี้อีกครั้ง เทรดเดอร์ก็จะพิจารณาเข้าออเดอร์ Sell เพราะคาดว่าราคาจะกลับลงไปอีกครั้งแน่นอน
3. ดู Demand Supply Zone ให้เป็น
เป็นเทคนิคเทรดหนึ่งที่เทรดเดอร์นิยมเลือกใช้ในการวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจังหวะทำกำไรจากโซนของตลาดที่มีนัยยะสำคัญจากกรอบราคาที่มีแรงซื้อ-ขายในปริมาณมากและมีความรุนแรง ซึ่งลักษณะการใช้งานจะมีความคล้ายกับแนวรับแนวต้าน แต่จะแตกต่างตรงที่ Demand Supply Zone จะเป็นกรอบของราคา ที่เมื่อราคามีโอกาสเคลื่อนที่ไปในกรอบนั้นแล้วเทรดเดอร์ก็จะเข้าซื้อขาย ส่วนแนวรับแนวต้านจะเป็นตัวเลขเพียงจุดเดียวของราคาที่มีนัยยะสำคัญ
Demand Zone คือโซนราคาที่เมื่อราคามาถึงจุดนี้แล้ว ถูกแรงซื้อรับให้ราคากลับตัวขึ้นไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของคนในตลาดที่ต้องการซื้อสินทรัพย์ในโซนนั้น โดยประเภทของ Demand Zone แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
– DBR (Drop-Base-Rally) ราคาก่อนหน้าจะอยู่ในแนวโน้มขาลง (Drop) จากนั้นพักตัวอยู่ในช่วงฐาน (Base) และต่อมาราคากลับทิศทางขึ้นกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Rally)
– RBR (Rally-Base-Rally) ราคาก่อนหน้าจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Rally) จากนั้นพักตัวอยู่ในช่วงฐาน (Base) และต่อมาราคาขึ้นต่อในแนวโน้มเดิม (Rally)
Supply Zone คือโซนราคาที่เมื่อราคามาถึงจุดนี้แล้ว ถูกแรงขายต้านให้ราคากลับตัวลงไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของคนในตลาดที่ต้องการขายสินทรัพย์ในโซนนั้น โดยประเภทของ Supply Zone แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
– DBD (Drop-Base-Drop) ราคาก่อนหน้าอยู่ในแนวโน้มขาลง (Drop) จากนั้นพักตัวอยู่ในช่วงฐาน (Base) และต่อมาราคาลงต่อในแนวโน้มเดิม (Drop)
– RBD (Rally-Base-Drop) ราคาก่อนหน้าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Rally) จากนั้นพักตัวอยู่ในช่วงฐาน (Base) และต่อมาราคากลับทิศทางเป็นแนวโน้มขาลง (Drop)
4.การบริหารความเสี่ยง
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ แถมยังช่วยปกป้องเงินทุนเราได้ในระยะยาว และถ้าเราบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ,มันก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดในตลาดที่มีความผันผวนสูงได้ ซึ่งวิธีหลักในการบริหารความเสี่ยงที่แอดใช้ก็คือ
1. การใช้ Stop Loss
การที่เราเปิดออเดอร์และมีวินัยในการตั้ง Stop Loss ตลอดจะช่วยให้เราลดการสูญเสียเงินทุนได้ โดยป้องกันไม่ให้ออเดอร์ที่เปิดผิดทางขาดทุนมากเกินไป และยังช่วยป้องกันการสูญเสียเงินทุนที่เกิดจะความผันผวนที่รุนแรงในตลาดอย่างเหตุการณ์ Slipage ได้อีกด้วย
2.การใช้ Take Profit
การตั้ง Take Profit ช่วยให้เรากำหนดกำไรและเป้าหมายกำไรได้ ก่อนตลาดจะกลับทิศทาง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียกำไรที่ทำได้
3.ทำให้ได้ตามแผน
สิ่งที่เราจะประความสำเร็จในการเทรดจริงๆ มันคือการทำให้ได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ทนฟ้าให้ได้ และยอมรับเมื่อกราฟไปทิศทางที่ตรงข้ามกับที่เราวิเคราะห์ ถ้าเรายอมรับมันได้แล้วมันก็จะช่วยให้เรามีจิตใจที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทีนี้เราก็จะพร้อมเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนของตลาดในอนาคตได้
บทส่งท้าย
เทคนิคเทรดข้างต้นเทรดเดอร์ทุกคนสามารถนำไปลองใช้และปรับเข้ากับการใช้งานของตัวเองได้เลยครับ ถึงแม้การทำกำไรจากการเทรดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเรา เพราะถ้าเรามีการวางแผนเทคนิคเทรด และใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เราก็สามารถประสบความสำเร็จในการเทรดได้ เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับการวางแผน การศึกษาตลาด การจัดการความเสี่ยง และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งถ้าเราสามารถทำตามหลักการเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะมีโอกาสทำกำไรจากการเทรดได้อย่างยั่งยืนครับ
แต่ก็อยากให้เทรดเดอร์ทุกคน จำไว้ด้วย ว่าการเทรดมีความเสี่ยงเสมอ การศึกษาตลาดสม่ำเสมอและการปรับปรุงทักษะตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายและสามารถทำกำไรจากตลาด Forex นี้ได้ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน
