Double Top Double Bottom คืออะไร?
Double Top Double Bottom คือ Chart patterns หรือรูปแบบพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของกราฟแท่งเทียนที่มีการกลับตัวไปในแนวโน้มต่างๆทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบการกลับตัวของกราฟตรงนี้หาจุดกลับตัวเพื่อเข้าออเดอร์ และวางแผนการเทรดจากเส้น Neckline ที่ราคาได้มีการทะลุลงไปหรือทะลุขึ้นมา
Double Top คืออะไร?
Double Top คือรูปแบบการกลับตัวของกราฟที่มักเกิดขึ้นในเทรนด์ขาขึ้น และจะมีการกลับตัวไปเป็นขาลง โดยจะพบรูปแบบ Double Top นี้มีลักษณะคล้ายกับรูปตัว M โดยจะมีจุด Swing High (Top 1) ที่ทำราคาสูงสุดก่อนหน้าและจุด Swing High (Top 2) ที่ทำราคาสูงสุดใกล้เคียงกับจุดแรก และมีจุด Swing Low อยู่ตรงกลาง
ในการเทรดด้วย Double Top หากกราฟอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น(มีการทำจุดสูงสุดเรื่อยๆ)และพบลักษณะของกราฟตามข้างต้น ให้เทรดเดอร์ตีเส้น Neckline ในจุดที่กราฟทำราคาต่ำสุด (Swing Low) ที่อยู่ตรงกลางของจุดสูงสุดทั้งสอง จากนั้นสามารถเข้าออเดอร์ Sell ได้เมื่อกราฟราคา Breakout เส้น Neckline ลงมา หรือจะเข้าออเดอร์หลังที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline ลงมาแล้วกลับขึ้นไปแตะที่เส้น Neckline อีกครั้งจากนั้นค่อยเข้าออเดอร์ Sell ตามไปก็ได้
Double Top คืออะไร?
Double Bottom คือรูปแบบการกลับตัวของกราฟที่มักเกิดขึ้นในเทรนด์ขาลง และจะมีการกลับตัวไปเป็นขาขึ้น โดยจะพบรูปแบบ Double Bottom นี้มีลักษณะคล้ายกับรูปตัว W โดยจะมีจุด Swing Low (Bottom 1) ที่ทำราคาต่ำสุดก่อนหน้าและจุด Swing Low (Bottom 2) ที่ทำราคาต่ำสุดใกล้เคียงกับจุดแรก และมีจุด Swing High อยู่ตรงกลาง
ในการเทรดด้วย Double Bottom หากกราฟอยู่ในเทรนด์ขาลง(มีการทำจุดต่ำสุดเรื่อยๆ) และพบลักษณะของกราฟตามข้างต้น ให้เทรดเดอร์ตีเส้น Neckline ในจุดที่กราฟทำราคาสูงสุด (Swing High) ที่อยู่ตรงกลางของจุดต่ำสุดทั้งสอง จากนั้นสามารถเข้าออเดอร์ Buy ได้เมื่อกราฟราคา Breakout เส้น Neckline ขึ้นไป หรือจะเข้าออเดอร์หลังที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline ขึ้นไปแล้วกลับลงมาแตะที่เส้น Neckline อีกครั้งจากนั้นค่อยเข้าออเดอร์ Buy ตามไปก็ได้เช่นกัน
การสังเกตรูปแบบกราฟอย่าง Double Top หรือ Double Bottom สามารถช่วยบอกสัญญาณการกลับตัวได้อย่างดี หลังจากที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline จากยอดจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดไปแล้วมีการกลับตัวมาแตะกับเส้น Neckline อีกครั้ง จนเส้น Neckline เกิดเป็นแนวรับหรือแนวต้านขึ้นจึงมีโอกาสสูงมากๆที่กราฟจะมีการกลับตัวเปลี่ยนไปในเทรนด์ต่างๆหลังจากที่ไม่มีสามารถ Breakout เส้น Neckline นี้ได้
