Triple Top Triple Bottom คืออะไร?
Triple Top Triple Bottom คือรูปแบบการกลับตัวของกราฟราคาที่เกิดจากการที่กราฟขึ้นหรือลงไปแตะกับเส้นแนวรับหรือแนวต้าน 3 ครั้งแล้วเกิดการกลับตัวลงไปเพื่อเปลี่ยนแนวโน้มจากขึ้นไปเป็นขาลงหรือจากขาลงไปเป็นขาขึ้นในที่สุด โดย Triple Top Triple Bottom จะมีการใช้งานที่คล้ายกับ Double Top & Double Bottom แต่จะมีส่วน Top ที่ 3 และ Bottom ที่ 3 เพิ่มเข้ามา ซึ่งเทรดเดอร์ก็จะใช้จุดกลับตัวตรงนี้ในการวางแผนเข้าออเดอร์เพื่อทำกำไรต่อไป
Triple Top คืออะไร?
Triple Top คือรูปแบบการกลับตัวของกราฟที่มักจะเจอในเทรนด์ขาขึ้น และอาจจะมีการกลับตัวไปเป็นขาลง โดยจะพบรูปแบบ Triple Top หลังจากที่กราฟทำจุดสูงสุดขึ้นมาเรื่อยๆจะเกิดจุด Swing High (Top 1) ที่ทำราคาสูงสุดใหม่แล้วกลับตัวลงไปทำ Swing Low ที่จุดหนึ่ง จากนั้นกราฟมีการกลับตัวขึ้นไปอยู่ในราคาที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดก่อนหน้า(Top 2) แล้วกราฟย่อตัวกลับลงไปอีกทำ Swing Low ที่ใกล้เคียงกับ Swing Low ก่อนหน้าและสุดท้ายมีการกลับตัวขึ้นไปอีกครั้งโดยทำจุดสูงสุดใกล้เคียงกับจุดสูงสุดทั้ง 2 จุดก่อนหน้า(Top 3) และย่อตัวกลับลงไป
ในการเทรดด้วย Double Top หากกราฟอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น(มีการทำจุดสูงสุดเรื่อยๆ)และพบลักษณะของกราฟตามข้างต้น ให้เทรดเดอร์ตีเส้น Neckline ในจุดที่กราฟทำราคาต่ำสุด (Swing Low) ที่อยู่ตรงกลางของจุดสูงสุดทั้งสอง จากนั้นสามารถเข้าออเดอร์ Sell ได้เมื่อกราฟราคา Breakout เส้น Neckline ลงมา หรือจะเข้าออเดอร์หลังที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline ลงมาแล้วกลับขึ้นไปแตะที่เส้น Neckline อีกครั้งจากนั้นค่อยเข้าออเดอร์ Sell ตามไปก็ได้
Triple Bottom คืออะไร?
Triple Bottom คือรูปแบบการกลับตัวของกราฟที่มักจะเจอในเทรนด์ขาลง และอาจจะมีการกลับตัวไปเป็นขาขึ้น โดยจะพบรูปแบบ Triple Bottom หลังจากที่กราฟทำจุดต่ำสุดลงมาเรื่อยๆจะเกิดจุด Swing Low (Bottom 1) ที่ทำราคาต่ำสุดใหม่แล้วกลับตัวขึ้นไปทำ Swing High ที่จุดหนึ่ง จากนั้นกราฟมีการกลับตัวลงมาอยู่ในราคาที่ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดก่อนหน้า(Bottom 2) แล้วกราฟพุ่งตัวกลับขึ้นไปทำ Swing High ที่ใกล้เคียงกับ Swing High ก่อนหน้าและสุดท้ายมีการกลับตัวลงมาอีกครั้งโดยทำจุดต่ำสุดใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดทั้ง 2 จุดก่อนหน้า(Bottom 3) และจากนั้นพุ่งตัวกลับขึ้นไป
ในการเทรดด้วย Double Bottom หากกราฟอยู่ในเทรนด์ขาลง(มีการทำจุดต่ำสุดเรื่อยๆ) และพบลักษณะของกราฟตามข้างต้น ให้เทรดเดอร์ตีเส้น Neckline ในจุดที่กราฟทำราคาสูงสุด (Swing High) ที่อยู่ตรงกลางของจุดต่ำสุดทั้งสอง จากนั้นสามารถเข้าออเดอร์ Buy ได้เมื่อกราฟราคา Breakout เส้น Neckline ขึ้นไป หรือจะเข้าออเดอร์หลังที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline ขึ้นไปแล้วกลับลงมาแตะที่เส้น Neckline อีกครั้งจากนั้นค่อยเข้าออเดอร์ Buy ตามไปก็ได้เช่นกัน
การสังเกตรูปแบบกราฟอย่าง Double Top หรือ Double Bottom สามารถช่วยบอกสัญญาณการกลับตัวได้อย่างดี หลังจากที่กราฟมีการ Breakout เส้น Neckline จากยอดจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดไปแล้วมีการกลับตัวมาแตะกับเส้น Neckline อีกครั้ง จนเส้น Neckline เกิดเป็นแนวรับหรือแนวต้านขึ้นจึงมีโอกาสสูงมากๆที่กราฟจะมีการกลับตัวเปลี่ยนไปในเทรนด์ต่างๆหลังจากที่ไม่มีสามารถ Breakout เส้น Neckline นี้ได้